ระเบียบกรมการจัดหางาน ว่าด้วยหลักเกณฑ์การพิจารณาจัดสรรจำนวนการจ้างคนคนต่างด้าว พศ. 2559
ตามที่กระทรวงแรงงานได้ออกประกาศ เรื่อง การรับแจ้งความต้องการจ้างคนต่างด้าว ลงวันที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2560 เพื่อจัดระบบการจ้างคนต่างด้าว โดยให้กรมการจัดหางานรับแจ้ง และจัดสรรจำนวนการจ้างคนต่างด้าวให้แก่ผู้ประสงค์จะนำคนต่างด้าวเข้ามาทำงานในสถานประกอบการ กรมการจัดหางานจึงได้วางระเบียบว่าด้วยหลักเกณฑ์การจัดสรรจำนวน และพิจารณาอนุญาตการทำงานของคนต่างด้าวสัญชาติพม่า ลาว และกัมพูชา ลงวันที่ 26 มิถุนายน พ.ศ.2552 เพื่อให้หน่วยงานปฎิบัติไปในแนวทางเดียวกันนั้น
เพื่อให้การพิจารณาจัดสรรจำนวนการจ้างคนต่างด้าวให้ผู้ที่ประสงค์จะจ้างคนต่างด้าวเข้ามาทำงานในสถานประกอบการของตนเอง มีจำนวนอัตราการจ้างที่เหมาะสม และเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลอันจะเป็นมาตราการหนึ่งในการป้องกัน และแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ด้านแรงงาน
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 32 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ.2534 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน (ฉบับที่ 5) พ.ศ.2545 อธิบดีกรมการจัดหางานจึงวางระเบียบไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ 1. ระเบียบนี้เรียกว่า "ระเบียบกรมการจัดหางานว่าด้วยหลักเกณฑ์การพิจารณาจัดสรรจำนวนการจ้างคนต่างด้าว พ.ศ.2559
ข้อ 2. ระเบียบนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศเป็นต้นไป
ข้อ 3. ให้ยกเลิกระเบียบกรมการจัดหางานว่าด้วยหลักเกณฑ์การจัดสรรจำนวน และการพิจารณาอนุญาตการทำงานของคนต่างด้าวสัญชาติพม่า ลาว และกัมพูชา พ.ศ.2552
ข้อ 4. การพิจารณาจัดสรรจำนวนการจ้างคนต่างด้าว ให้สำนักงานจัดหางานจังหวัด และสำนักจัดหางานกรุงเทพ พิจารณาจัดสรรจำนวนการจ้างคนต่างด้าวเฉพาะคนต่างด้าวสัญชาติที่กระทรวงแรงงานจัดระบบบริหารจัดการ หรือสัญชาติที่ได้จัดทำข้อตกลงว่าด้วยการจ้างงานระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทย กับรัฐบาลแห่งชาติอื่น ได้ตามความจำเป็น และเหมาะสม โดยคำนึงถึงความมั่นคงของชาติ โอกาสในการประกอบอาชีพของคนไทย ความต้องการแรงงานต่างด้าว ที่จำเป็นต่อการพัฒนาประเทศ และผลกระทบต่อสังคมตามแนวนโยบายของรัฐบาล ทั้งนี้ ให้จัดสรรจำนวนการจ้างคนต่างด้าวให้แก่ผู้ที่ประสงค์จะจ้างคนต่างด้าวซึ่งประกอบกิจการ หรือเพื่อทำงาน ดังต่อไปนี้
1. กิจการประมงทะเล
2. กิจการต่อเนื่องประมงทะเล
3. กิจการเกษตร และปศุสัตว์
4. กิจการก่อสร้าง
5. กิจการต่อเนื่องการเกษตร
6. กิจการต่อเนื่องปศุสัตว์โรงฆ่าสัตว์ หรือชำแหละ
7. กิจการรีไซเคิล
8. กิจการเหมืองแร่ หรือเหมืองหิน
9. กิจการจำหน่ายผลิตภัณฑ์โลหะ
10. กิจการจำหน่ายอาหาร และเครื่องดื่ม
11. กิจการผลิต หรือจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากหิน
12. กิจการผลิต หรือจำหน่ายวัสดุก่อสร้าง
13. กิจการแปรรูปหิน
14. กิจการผลิต หรือจำหน่ายเสื้อผ้าสำเร็จรูป
15. กิจการผลิต หรือจำหน่ายผลิตภัณฑ์พลาสติก
16. กิจการผลิต หรือจำหน่ายผลิตภัณฑ์กระดาษ
17. กิจการผลิต หรือจำหน่ายอิเล็กทรอนิกส์
18. กิจการขนถ่ายสินค้าทางบก น้ำ คลังสินค้า
19. กิจการค้าส่ง ค้าปลีก แผงลอย
20. กิจการอู่ซ่อมรถ ล้าง อัดฉีด
21. กิจการสถานีบริการน้ำมัน แก๊ส เชื้อเพลิง
22. กิจการสถานศึกษา มูลนิธิ สมาคม สถานพยาบาล
23. ผู้รับใช้ในบ้าน
ข้อ 5. การพิจารณาจัดสรรจำนวนคนต่างด้าวตามข้อ 4 ให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการดังต่อไปนี้
1. ตรวจสอบแบบรับแจ้งความต้องการจ้างคนต่างด้าวตามแบบแนบท้ายประกาศกระทรวงแรงงาน เรื่อง การรับแจ้งความต้องการจ้างคนต่างด้าว ลงวันที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2560 โดยให้มีการลงรายการให้ครบถ้วน ในกรณีผู้ที่ประสงค์จะจ้างคนต่างด้าวจะมอบหมายให้ผู้ประกอบธุรกิจจัดหาคนต่างด้าวเป็นผู้จัดหาคนต่างด้าว ให้ระบุรายชื่อของผู้ประกอบธุรกิจจัดหาคนต่างด้าวเพิ่มเติมไว้ในแบบแจ้งความต้องการจ้างคนต่างด้าว
2. ตรวจสอบหลักฐานแสดงการให้โอกาสคนไทยได้ทำงานในสถานประกอบการ และหลักฐานที่แสดงถึงความจำเป็นที่ต้องนำคนต่างด้าวเข้ามาทำงานในสถานประกอบการนั้น ๆ ให้เป็นไปตามที่กำหนดไว้ในประกาศกระทรวงแรงงาน เรื่อง การรับแจ้งความต้องการจ้างคนต่างด้าว ลงวันที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2550
3. ตรวจสอบหลักฐานการมอบหมายให้ผู้ประกอบธุรกิจจัดหาคนต่างด้าวเป็นผู้จัดหาคนต่างด้าวให้ (ถ้ามี)
4. ตรวจสอบสถานประกอบการซึ่งต้องมีการประกอบธุรกิจจริงตามประเภทกิจการที่ได้แจ้งความต้องการจ้างคนต่างด้าวไว้ ยกเว้นการพิจารณาจัดสรรจำนวนการจ้างคนต่างด้าวให้แก่ผู้ที่ประสงค์จะจ้างคนต่างด้าวเพื่อทำงานเป็นผู้รับใช้ในบ้าน
ข้อ 6. เมื่อเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบตามข้อ 5. และปรากฏว่าผู้ที่ประสงค์จะจ้างคนต่างด้าวได้ดำเนินการครบถ้วน ให้เจ้าหน้าที่เสนอหัวหน้าหน่วยงานพิจารณาจัดสรรจำนวนการจ้างคนต่างด้าวโดยให้จัดทำหนังสือแจ้งผลการอนุญาตให้จ้างแรงงานต่างด้าว ตามแบบแนบท้ายประกาศกระทรวงแรงงาน เรื่อง การรับแจ้งความต้องการจ้างคนต่างด้าว ลงวันที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2550 และกรณีที่มอบหมายให้ผู้ประกอบธุรกิจจัดหาคนต่างด้าวเป็นผู้จัดหาคนต่างด้าว ให้เจ้าหน้าที่ระบุชื่อของผู้ประกอบธุรกิจจัดหาคนต่างด้าวตามที่ได้แจ้งไว้ในหนังสือแจ้งผลการอนุญาตให้จ้างแรงงานต่างด้าวด้วย
ให้หน่ายงานที่ได้จัดสรรจำนวนคนต่างด้าวตามวรรคหนึ่งเป็นจำนวนตั้งแต่สามสิบคนขึ้นไป รายงานให้อธิบดีกรมการจัดหางานทราบภายในเจ็ดวันนับแต่วันที่มีหนังสือแจ้งผลการอนุญาตให้จ้างแรงงานต่างด้าว
กรณีผลการตรวจสอบไม่เป็นไปตามข้อ 5. ให้เจ้าหน้าที่เสนอหัวหน้าหน่วยงานเพื่อมีคำสั่งไม่จัดสรรจำนวนการจ้างคนต่างด้าว พร้อมทั้งแจ้งสิทธิ์ในการอุทธรณ์คำสั่งไว้ในหนังสือดังกล่าวด้วย
ข้อ 7. ให้หน่วยงานแจ้งให้ผู้ได้รับการจัดสรรจำนวนการจ้างคนต่างด้าวตามข้อ 6. นำคนต่างด้าวเข้ามาทำงานให้เสร็จสิ้นก่อนหนังสือแจ้งผลการอนุญาตให้จ้างแรงงานต่างด้าวสิ้นอายุ
ข้อ 8. บรรดาหนังสือแจ้งผลการอนุญาตให้จ้างแรงงานต่างด้าวที่ได้ให้ไว้ก่อนวันที่ระเบียบนี้ใช้บังคับให้ใช้ต่อไปได้จนสิ้นอายุ
ให้ไว้ ณ วันที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ.2556 โดย นายอารักษ์ พรหมณี อธิบดีกรมการจัดหางาน
ที่มา สำนักบริหารแรงงานต่างด้าว
บริษัทนำคนต่างด้าวมาทำงานในประเทศ 8 ทิศกู้ดเพาเวอร์ จำกัด ได้ลงนามเป็นพันธมิตรกับบริษัท KABAR SERVICES CO.,LTD ซึ่งเป็นพันธมิตรทางเมียนมา ซึ่งเป็นผู้นำทางด้าน ศูนย์ฝึกอบรมแรงงานที่ได้มาตรฐาน จากทั้งประเทศ สิงค์โปร์และประเทศมาเลเซีย ซึ่งศูนย์ฝึกอบรมแห่งนี้ได้ลงนามกับทางบริษัท